วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เริ่มต้นการเขียนโปรแกรมภาษา php เบื้องต้น
<?...?> = Tag ในคำสั่ง php
print = แสดงคำพูดในเครื่องหมาย "..."; ไม่มีการคำนวนค่า เช่น print "...";
echo = แสดงคำพูดและการคำนวนในเครื่องหมาย "...", x +,-,*,/ y; เช่น echo "...", x+ y;
\ = ไว้คั่นคำสั่ง "..." เพือแสดงเครื่องหมายเช่น echo , print "\"..."\ "; หรือ "\$";
\n = ไว้ขึ้นบรรทัดใหม่ใน Source แต่ไม่แสดงผลบนบราวเซอร์ เช่น print , echo "\n";
#,// = คำสั่งสำหรับห้ามทำการแสดงผลของคำสั่งวางไว้หน้าคำสั่ง echo , print เช่น #,// echo , print "...";
หรือการใช้ /* เพื่อเริ่มต้น และ */ เพื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ เช่น /*...*/
$... = "..."; = เป็นค่าแสดงตัวแปร เช่น $... = "..."; , การแสดงผลเช่น print , echo "... $...";
(สามารถคำนวนผลได้ เช่น $... +1 หรือ ++ และ $... -1 หรือ $... --)
$a
% = เป็นตัวแปรในการหารแต่เอาแค่เศษ เช่น echo $1 % $2; หรือ echo 100 % 250;
เงื่อนไข = > มากกว่า
< น้อยกว่า
>= มากกว่าหรือเท่ากัน
<= น้อยกว่าหรือเท่ากัน
== เท่ากัน
!= ไม่เท่ากัน
if = เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบว่าผลของการเปรียบเทียบว่าจริงหรือเท็จ อยู่ในรูปแบบ
if ( การเปรียบเทียบเช่น x >,<,>=,<=,==,!= y )
{
ถ้าจริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
ถ้าไม่จริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
else = เป็นคำสั่งที่จะใช้ร่วมกับ if แต่ใช้ตรงกันข้ามกันมีรูปแบบดังนี้
if (การเปรียบเทียบ)
{
ถ้าจริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
else
{
ถ้าไม่จริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
และสามารถใช้ if และ else กับการเปรียบเทียบได้ เช่น กำหนด $weight = 50;
if ($weight > 25)
{
print "คุณผอมไปนะ";
}
else
{
print "คุณอ้วนไป";
}
and (&&) = การใช้คำสั่ง if แบบมีช่วงโดยการใช้คำสั่ง and เช่น กำหนด $score = 90;
print "ได้เกรด $score
";
if ( $score >= 80 && $score <= 100)
{
print "ได้เกรด A";
}
print "
จบการตัดเกรด";
# คือมีคะแนนระหว่าง 80 ถึง 100 ถึงจะแสดงผล ได้เกรด A
การเปรียบเทียบหลายค่าเช่น กำหนด $score = 53;
print "ได้เกรด $score
";
if ( $score >= 80 && $score <= 100) {
print "ได้เกรด A";
}
if ( $score >= 70 && $score <= 79) {
print "ได้เกรด B";
}
if ( $score >= 60 && $score <= 69) {
print "ได้เกรด C";
}
if ( $score < 60) {
print "ได้เกรด <font color=red>F</font>";
}
print "
จบการตัดเกรด";
or (||) = ตรวจสอบค่า $... ในช่องใดช่องหนึ่ง เช่น กำหนด $user = adicia; $pass = istrator;
if ( $user =="" || $pass=="" ) {
print "กรุณาอย่าให้เป็นช่องว่าง";
}
else {
print "Username คือ $user
";
print "Password คือ $pass
";
}
for = การใช้คำสั่งในการกระทำซ้ำไปซ้ำมา มี 3 คำสั่ง 1. for 2. while 3. do..while
1. for มีรูปแบบดังนี้
for ($for = x;$for < y;$for ++)
# x คือค่าเริ่มต้น y คือค่าสุดท้าย -1
{
print "...";
}
2. while
$while = 1;
while ( $while < y )
# ถ้า $while น้อยกว่า y
{
print "$while = ...
";
$while ++;
# ถ้า ++ นำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถ้า -- จะลดค่าลงเรื่อยๆ
}
3. do...while
$while = x;
do
{
print "$while = ...
";
$while --;
}
while ( $while > y );
print "End";
# กระทำ do เลยแล้วมาตรวจสอบ ค่า while
Function = รูปแบบ
function Name ( )
# ชื่อของ function
{
}
Name();
Parameter = รูปแบบ
function Name ( $parameter )
# ชื่อของ function
{
echo "Name = ",3.14 * $parament * $parament,"
";
}
Name( x );
# x คือจำนวนตัวเลข
# อาจจะใช้ if ช่วยตรวจสอบ
function Name ( $parameter )
# ชื่อของ function
{
if ( $parameter >=0 )
{
echo "Name = ",3.14 * $parament * $parament,"
";
}
else
{
echo "ค่าที่ใช้ต้องมีค่ามากกว่า <font color=red>0</font> นะครับ";
}
}
Name( x );
# สามารถใช้ Function ได้ในทุกสถานที่มีรูปแบบดังนี้
<?
# Name ชื่อ Name( x );
?>
# หรือเรียก Function จากไพล์อื่นโดย
<?
require "ที่อยู่ของไพล์ function";
Name ( x );
?>
print = แสดงคำพูดในเครื่องหมาย "..."; ไม่มีการคำนวนค่า เช่น print "...";
echo = แสดงคำพูดและการคำนวนในเครื่องหมาย "...", x +,-,*,/ y; เช่น echo "...", x+ y;
\ = ไว้คั่นคำสั่ง "..." เพือแสดงเครื่องหมายเช่น echo , print "\"..."\ "; หรือ "\$";
\n = ไว้ขึ้นบรรทัดใหม่ใน Source แต่ไม่แสดงผลบนบราวเซอร์ เช่น print , echo "\n";
#,// = คำสั่งสำหรับห้ามทำการแสดงผลของคำสั่งวางไว้หน้าคำสั่ง echo , print เช่น #,// echo , print "...";
หรือการใช้ /* เพื่อเริ่มต้น และ */ เพื่อถึงจุดที่กำหนดไว้ เช่น /*...*/
$... = "..."; = เป็นค่าแสดงตัวแปร เช่น $... = "..."; , การแสดงผลเช่น print , echo "... $...";
(สามารถคำนวนผลได้ เช่น $... +1 หรือ ++ และ $... -1 หรือ $... --)
$a
- = "..."; = เป็นตัวแปรไว้เก็บค่าหลายๆๆ ค่า
- หมายถึง ลำดับของตัวแปร 1,2,3,... และสามารถนำมาคำนวนได้เช่น "a[0] + a[1] + a[2]";
% = เป็นตัวแปรในการหารแต่เอาแค่เศษ เช่น echo $1 % $2; หรือ echo 100 % 250;
เงื่อนไข = > มากกว่า
< น้อยกว่า
>= มากกว่าหรือเท่ากัน
<= น้อยกว่าหรือเท่ากัน
== เท่ากัน
!= ไม่เท่ากัน
if = เป็นคำสั่งที่ใช้ตรวจสอบว่าผลของการเปรียบเทียบว่าจริงหรือเท็จ อยู่ในรูปแบบ
if ( การเปรียบเทียบเช่น x >,<,>=,<=,==,!= y )
{
ถ้าจริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
ถ้าไม่จริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
else = เป็นคำสั่งที่จะใช้ร่วมกับ if แต่ใช้ตรงกันข้ามกันมีรูปแบบดังนี้
if (การเปรียบเทียบ)
{
ถ้าจริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
else
{
ถ้าไม่จริงให้โปรแกรมเขียนอยู่ในนี้
โปรแกรม ....
โปรแกรม ....
}
และสามารถใช้ if และ else กับการเปรียบเทียบได้ เช่น กำหนด $weight = 50;
if ($weight > 25)
{
print "คุณผอมไปนะ";
}
else
{
print "คุณอ้วนไป";
}
and (&&) = การใช้คำสั่ง if แบบมีช่วงโดยการใช้คำสั่ง and เช่น กำหนด $score = 90;
print "ได้เกรด $score
";
if ( $score >= 80 && $score <= 100)
{
print "ได้เกรด A";
}
print "
จบการตัดเกรด";
# คือมีคะแนนระหว่าง 80 ถึง 100 ถึงจะแสดงผล ได้เกรด A
การเปรียบเทียบหลายค่าเช่น กำหนด $score = 53;
print "ได้เกรด $score
";
if ( $score >= 80 && $score <= 100) {
print "ได้เกรด A";
}
if ( $score >= 70 && $score <= 79) {
print "ได้เกรด B";
}
if ( $score >= 60 && $score <= 69) {
print "ได้เกรด C";
}
if ( $score < 60) {
print "ได้เกรด <font color=red>F</font>";
}
print "
จบการตัดเกรด";
or (||) = ตรวจสอบค่า $... ในช่องใดช่องหนึ่ง เช่น กำหนด $user = adicia; $pass = istrator;
if ( $user =="" || $pass=="" ) {
print "กรุณาอย่าให้เป็นช่องว่าง";
}
else {
print "Username คือ $user
";
print "Password คือ $pass
";
}
for = การใช้คำสั่งในการกระทำซ้ำไปซ้ำมา มี 3 คำสั่ง 1. for 2. while 3. do..while
1. for มีรูปแบบดังนี้
for ($for = x;$for < y;$for ++)
# x คือค่าเริ่มต้น y คือค่าสุดท้าย -1
{
print "...";
}
2. while
$while = 1;
while ( $while < y )
# ถ้า $while น้อยกว่า y
{
print "$while = ...
";
$while ++;
# ถ้า ++ นำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถ้า -- จะลดค่าลงเรื่อยๆ
}
3. do...while
$while = x;
do
{
print "$while = ...
";
$while --;
}
while ( $while > y );
print "End";
# กระทำ do เลยแล้วมาตรวจสอบ ค่า while
Function = รูปแบบ
function Name ( )
# ชื่อของ function
{
}
Name();
Parameter = รูปแบบ
function Name ( $parameter )
# ชื่อของ function
{
echo "Name = ",3.14 * $parament * $parament,"
";
}
Name( x );
# x คือจำนวนตัวเลข
# อาจจะใช้ if ช่วยตรวจสอบ
function Name ( $parameter )
# ชื่อของ function
{
if ( $parameter >=0 )
{
echo "Name = ",3.14 * $parament * $parament,"
";
}
else
{
echo "ค่าที่ใช้ต้องมีค่ามากกว่า <font color=red>0</font> นะครับ";
}
}
Name( x );
# สามารถใช้ Function ได้ในทุกสถานที่มีรูปแบบดังนี้
<?
# Name ชื่อ Name( x );
?>
# หรือเรียก Function จากไพล์อื่นโดย
<?
require "ที่อยู่ของไพล์ function";
Name ( x );
?>
บทที่ 18 การเข้าถึงข้อมูลใน array ด้วย for each
class ForIn {
public static void main(String[] args) {
int [] i = {1,3,4,5,6,4,0,8,9};
for (int data : i){
System.out.println(data);
}
}
}
บทที่ 17 การใช้งาน array ที่ซ้อนกัน
การสร้าง Array ซ้อนกัน แบบการประกาศตัวแปรพร้อมกับกำหนดค่า
เรามาเริ่มลุยกันเลยดีกว่า นะครับ ?
class ComlexArray {
public static void main (String[] args) {
// การสร้าง Array ซ้อนกัน แบบการประกาษตัวแปรพร้อมกับกำหนดค่า
int [][] a={
{1,2,3},
{4,5,6},
{7,8,9},
};
// การสร้าง Array ซ้อนกัน แบบการประกาศตัวแปรไว้ก่อนแล้วมากำหนดค่าภายหลัง
int [][] b=new int[2][2];
b[0] = new int [] {1,2,3};
b[1] = new int [] {4,5,6};
}
}
เรามาเริ่มลุยกันเลยดีกว่า นะครับ ?
class ComlexArray {
public static void main (String[] args) {
// การสร้าง Array ซ้อนกัน แบบการประกาษตัวแปรพร้อมกับกำหนดค่า
int [][] a={
{1,2,3},
{4,5,6},
{7,8,9},
};
// การสร้าง Array ซ้อนกัน แบบการประกาศตัวแปรไว้ก่อนแล้วมากำหนดค่าภายหลัง
int [][] b=new int[2][2];
b[0] = new int [] {1,2,3};
b[1] = new int [] {4,5,6};
}
}
บททที่ 16 การใช้งานตัวแปร array
การใช้งานตัวแปร array
คือตัวแปรที่เก็บข้อมูลเป็นชุด และมี index เป็นตัวชี้ การประกาศตัวแปรแบบ Array ทำได้ดังนี้
Type[] variable name={ค่าเริ่มต้น};
เช่น
int []a={10,20,30};
การสร้าง Array เเล้วเก็บค่าเลย เรามาดูกันเลย ok
class Array {
public static void main(String[] args) {
/* int i = 10;
int j = 20;
int k = 30;
*/
//หากว่าผมเขียนโปรแกรมเก็บตัวแแปร 1000 ตัว ผมคงเขียนโปรแกรมไม่ไหวแน่
// เพราะฉนั้นจึงมี Array เพื่อช่วยในการแก้ปัญหา เรามารู้จัก การสร้าง Array กับการเก็บค่ากันดีกว่า
int[] i={10,20,30,40,50}; //การสร้าง Array แล้วเก็บค่าเลย
int[] j=new int[5]; //การสร้าง Array มารอเก็บค่า
// ต่อไปมาดูการสร้าง Array 2 มิติ
int [][] k=new int[2][2];
k[0][0]=1;
k[1][0]=2;
k[1][1]=3;
k[0][1]=4;
}
}
บทที่ 15 การทำซ้ำด้วย do while
class Do {
public static void main (String[] args) {
int x = 0;
do {
System.out.println(x);
x++;
}while (x>=5);
// ขออธิบายนิดนึงนะครับเกี่ยวกับ loop do while
// การทำงานของ loop do while ถ้าหากว่าเงื่อนไขที่เราตั้งเป็นจริงมันก็จะทำงาน
// เเต่ถ้าเงื่อนไขไม่เป็นจริงมันก็จะทำงานในรอบที่ 1 ก่อนเสมอ
// จากตัวอย่างแน่นอนว่า เราตั้งให้ (x<=5) ซึ้งเป็นจริงก็จะ print 0,1,2,3,4,5
// แต่หากว่าเราตั้ง เงื่อนไขไหม เช่น (x>=5) ซึ่งแน่นอนผลลัพธ์ของเราก็คือ '0'
}
}
บทที่ 14 การทำซ้ำด้วย while
class While {
public static void main (String[] args) {
int x = 0;
while (x<=20) {
System.out.println(x);
x++;
}
}
}
บทที่ 13 การทำซ้ำด้วย for
// ให้ print 1-10
// หากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำอย่างไร มาดูต่อกันเลยคับผม
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ
/*
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
*/
// ต่อไปหากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำยังไง มาดูต่อกันเลยครับผม
for (int i=1; i<=9; i+=2) {
System.out.println(i);
}
}
}
// เรียงจากมากไปหาน้อย
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ เป็นการเรียงจากน้อยไปหามาก
/*
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
*/
// ต่อไปหากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำยังไง มาดูต่อกันเลยครับผม
/*
for (int i=1; i<=9; i+=2) {
System.out.println(i);
}
*/
//เรียงจากมากไปหาน้อย ลุยกันต่อเลยครับ
for (int i=9; i>=0; i-=2) {
System.out.println(i);
}
}
}
class For {
public static void main (String[] args) {
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i);
}
}
}
//ให้แสดง 10-1
class For {
public static void main (String[] args) {
/*
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i);
}
}
}
// แสดงเลข คู่
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
}
}
// ให้ลดค่าลงทีละสอง
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
}
}
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
}
}
// หากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำอย่างไร มาดูต่อกันเลยคับผม
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ
/*
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
*/
// ต่อไปหากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำยังไง มาดูต่อกันเลยครับผม
for (int i=1; i<=9; i+=2) {
System.out.println(i);
}
}
}
// เรียงจากมากไปหาน้อย
class For {
public static void main (String[] args) {
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=1; i<=10; i++) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 1-10
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/* คอมเม้นเริ่มต้น
for (int i=10; i>=1; i--) {
System.out.println(i); //ให้แสดง 10-1
}
*/ // คอมเม้นสิ้นสุด
/*
// ให้แสดงเลขคู่
for (int i=0; i<=10; i+=2) {
System.out.println(i);
//กำหนดให้ i=0
//ถ้า if i<=10
//ให้แสดง print i
//จบการทำงานของคำสั่ง if end
//ให้ i ทำอะไรต่อ ก็ให้ i=i+2
//ดังนั้น i=2 จบการทำงานรอบที่ 1
//ต่อไปเริ่มต้นรอบที่ 2
// ให้ i=2
// if 2<=10
// print i
// จบการทำงานในรอบที่ 2 จะวนรอบการทำงานอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบค่าที่เราได้กำหนดเอาไว้
}
*/
// ให้ลดลงทีละ 2 มาดุกันต่อนะครับ เป็นการเรียงจากน้อยไปหามาก
/*
for (int i=10; i>=0; i-=2){
System.out.println(i);
}
*/
// ต่อไปหากว่าเป็นเลข คี่ เราจะทำยังไง มาดูต่อกันเลยครับผม
/*
for (int i=1; i<=9; i+=2) {
System.out.println(i);
}
*/
//เรียงจากมากไปหาน้อย ลุยกันต่อเลยครับ
for (int i=9; i>=0; i-=2) {
System.out.println(i);
}
}
}
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
บที่ 12 การใช้ switch
class Switch {
public static void main(String[] args){
int x = 30;
switch (x) {
case 20 :
System.out.println("condition 1");
break;
case 30 :
System.out.println("condition 2");
break;
case 40 :
System.out.println("condition 3");
break;
default :
System.out.println("con1,con2,con3,");
}
}
}
บทที่ 11 การใช้ if else if
class ifelseif {
public static void main(String[] args){
int x = 50;
if (x==50){
System.out.println("print joop");
}else if (x==60){
System.out.print("print joop 2");
}else if (x==70){
System.out.print("print joop 3");
}else{
System.out.print("hello java");
}
}
}
บทที่ 10 การใช้ if else
public class ifelesif2 {
public static void main(String[] args){
int x = 3;
if (x==3){
System.out.println("true");
}else{
System.out.println("false");
}
}
}
บทที่ 9 การใช้ if ซ้อน if
class if2 {
public static void main(String[] args){
int a = 51;
if (a>0 && a<100){
if (a==51) {
System.out.println("print ok");
}else if (a==5){
System.out.println("print ok2");
}
}else {
System.out.println("Mr.Preecha Prueprang");
}
}
}
วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
บทที่ 8 การใช้ if
if ก็คือ การเขียนโปรแกรมให้คิดเป็น ตัดสินใจเป็น รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ
ตัวอย่าง
public class IF {
public static void main(String[] args) {
int x = 4;
if (x == 4){
System.out.println("x==4 true");
}
System.out.println("hello");
}
}
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
บทที่ 7 ตัวดำเนินการแบบ รวบรัด
/*class ShotOper2 {
public static void main(String[] args){
int x = 3;
// +, -, *, /, %
x = x+3; // หมายความว่า x = 3+3 :: 6
System.out.println(x); // แน่นอนผลลัพธ์ที่ได้ คือ 6 !
}
}
*/
//หากว่าเราเขียนเหมือนข้างบนแน่นอนครับว่ามันยุ่งยากเพราะว่า เก็บค่าตัวแปรยาวเกินไป
//ลองเขียนใหม่ดูดีกว่า
class ShotOper2 {
public static void main (String[] args){
int x = 10;
int y = 3;
System.out.println("x+ =y:" +(x+=y));
System.out.println("x- =y:" +(x-=y));
System.out.println("x* =y:" +(x*=y));
System.out.println("x/ =y:" +(x/=y));
System.out.println("x% =y:" +(x%=y));
System.out.println("x++ : " +(x++));
System.out.println("x-- : " +(x--));
System.out.println("++x : " +(++x));
System.out.println("--x : " +(--x));
}
}
บทที่ 6 การใช้ตัวดำเนินการ
public class ShotOper {
public static void main (String[] args) {
int x = 3;
++x;
--x;
// ++, --
//x++;
//x--;
System.out.println(x++);
System.out.println(x--);
System.out.println(x);
System.out.println(x+x);
}
}
/* การใช้ตัวดำเนินการแบบ เพิ่มค่าขึ้นทีละหนึ่ง ก็ คือ x++, x--
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)